Skip Navigation Linksหน้าแรก > ข่าวทั้งหมด > ข่าว
นักวิชาการศึกษา
คู่มือ | 14 กันยายน 2561 15:00:15

คู่มือปฏิบัติติงาน ตำแหน่งนักวิชาการศึกษา

สังกัด มหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่ เฉลิมพระเกียรติ

 

โดย

นายภาคภูมิ บุญมาภิ

ตำแหน่งนักวิชาการศึกษา

คำนำ

ในปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ซึ่งให้ความรู้ สาระต่าง ๆ ที่ได้มาจากการค้นคว้า ข่าวสารจากเทคโนโลยีสารสนเทศ นั้น สามารถนามาประยุกต์ใช้ทั้งทางด้านการศึกษาและชีวิตประจำวันได้ ดังนั้น เพื่อสร้างความเข้มแข็งในการแข่งขันในยุคโลกาภิวัตน์ด้วยการพัฒนาสังคมและประชากรให้เป็นสังคม ของการเรียนรู้ ที่สามารถใช้ภูมิปัญญามาพัฒนามหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่ เฉลิมพระเกียรติให้เจริญ ก้าวหน้า กลายเป็นสังคมที่พัฒนา แล้วในทุกด้าน เกิดความมั่นคงและความเจริญก้าวหน้าที่ยั่งยืน ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความสุขทั่วกัน โดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารโทรคมนาคมที่ทันสมัย เป็นแรงขับเคลื่อนกิจกรรม ต่าง ๆ ให้เกิดผลเป็นรูปธรรมของการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมและความมั่นคงที่ยั่งยืน การนำ ICT มาใช้ประโยชน์ในการบริหาร และการให้บริการ การใช้ ICT เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต การยกระดับอาจารย์ นักศึกษา ตลอดจนบุคลากรให้มีความรู้ด้าน ICT เพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำงาน และเพื่อให้สามารถแปรไปสู่ภาคปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมและมีความเป็นไปได้ ซึ่งมีความสำคัญสำหรับการ ริเริ่มการพัฒนาสังคมแห่งภูมิปัญญาและการเรียนรู้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการวางรากฐานที่จะทำให้เกิดการ พัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศของมหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่ เฉลิมพระเกียรติต่อไปในอนาคต


ประวัติความเป็นมา มหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่ เฉลิมพระเกียรติ

๑.  ที่อยู่ : เลขที่ ๑๗ หมู่ ๓ ตำบลแม่ทราย อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่  โทรศัพท์: ๐-๕๔๖๔-๘๕๙๓ โทรสาร : ๐-๕๔-๘๓๗๔, ๐-๕๔๖๔-๘๕๙๖ URL : http://www.phrae.mju.ac.th/

 

๒. ประวัติความเป็นมา

ปีพ.ศ.๒๕๓๘ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ได้ดำเนินการขยายพื้นที่การศึกษาของมหาวิทยาลัยไปยังภูมิภาค ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๐ มิถุนายน ๒๕๓๘ โดยให้มหาวิทยาลัย/สถาบัน ๑๐ แห่ง ขยายวิทยาเขต/ขยายพื้นที่การสอนไปยังภูมิภาคในพื้นที่ ๑๑ จังหวัด คือ จังหวัดหนองคาย พะเยา จันทบุรี แพร่ ตรัง ชุมพร สุราษฎร์ธานี สกลนคร กาญจนบุรี ราชบุรี และปราจีนบุรี ในครั้งนี้มหาวิทยาลัยแม่โจ้ได้เสนอโครงการจัดตั้งมหาวิทยาลัยแม่โจ้ - แพร่ เพื่อรับผิดชอบภาระหน้าที่ในการจัดการเรียนการสอนในระดับอุดมศึกษา โดยการกระจายโอกาสทางการศึกษาไปยังจังหวัดแพร่และจังหวัดใกล้เคียง

ต่อมาได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการอำนวยการจัดงานฉลองสิริราชสมบัติครบ ๕๐ ปี ให้เป็น โครงการเฉลิมพระเกียรติ ” ตามหนังสือที่ นร(สส) ๑๒๐๑/๖๕ ลงวันที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๓๘ จึงเรียกโครงการนี้ว่า โครงการจัดตั้งมหาวิทยาลัยแม่โจ้ – แพร่ เฉลิมพระเกียรติ ” เป็นส่วนราชการหนึ่งสังกัดมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ในแรกเริ่มการพัฒนามหาวิทยาลัยแม่โจ้ได้แต่งตั้งผู้บริหารทั้งภาครัฐ เอกชนและบุคคลที่มีชื่อเสียงในจังหวัดแพร่ เป็นคณะกรรมการบริการโครงการจัดตั้ง และระดมสมองในการดำเนินแผนงานแม่บทด้านวิชาการและว่าจ้างบริษัทเซาท์เทอร์นเอ็นจิเนียร์จำนวนเงิน ๒.๑๔ ล้านบาท ศึกษาและวางแผนแม่บททางกายภาพในปี พ.ศ. ๒๕๓๘ และเสนอต่อทบวงมหาวิทยาลัย แต่เนื่องจากภาวะผันผวนทางเศรษฐกิจ ทำให้ต้องมีการปรับแผนแม่บทให้มีความสอดคล้องกับนโยบายภาวะเศรษฐกิจของประเทศ และศักยภาพของมหาวิทยาลัยเองโดยให้มีการพัฒนาเป็นวิทยาเขตขนาดเล็ก แต่มีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการการศึกษาระดับอุดมศึกษาให้เป็นเลิศทางวิชาการและเป็นศูนย์กลางของการแก้ปัญหาในท้องถิ่น

เมื่อได้รับการเห็นชอบจากทบวงมหาวิทยาลัย จึงได้จัดตั้งมหาวิทยาลัยขึ้นในปี ๒๕๔๒ ในชื่อว่า มหาวิทยาลัยแม่โจ้ – แพร่ เฉลิมพระเกียรติ” (Maejo University Phrae Campus)

 

๓. ปรัชญา วิสัยทัศน์ เอกลักษณ์ อัตลักษณ์ พันธกิจ และนโยบายการบริหารงานตามพันธกิจ

๓.๑ ปรัชญา

มุ่งมั่นพัฒนาบัณฑิตสู่ความเป้นผู้อุดมด้วยปัญญา อดทน สู้งาน เป็นผู้มีคุณธรรมและจริยธรรม เพื่อความเจริญรุ่งเรืองวัฒนาของสังคมไทยที่มีการเกษตรเป็นรากฐาน

๓.๒ วิสัยทัศน์

“เป็นมหาวิทยาลัยทางการเกษตรปลอดภัย และเทคโนโลยีในระดับชาติ”

 

๓.๓ เอกลักษณ์ของมหาวิทยาลัย

“เป็นมหาวิทยาลัยที่ส่งเสริมการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนและบริการวิชาการในระดับอาเซียน”

๓.๔ อัตลักษณ์ของมหาวิทยาลัย

พัฒนานักศึกษาให้เป็นบัณฑิตที่เป็นนักปฏิบัติที่ทันต่อการเปลี่ยนแปลง และเป็นผู้มีความเชี่ยวชาญในสาขาวิชา

๓.๕ พันธกิจ

๑. ผลิตบัณฑิตให้มีความรู้และทักษะด้านการเกษตรปลอดภัย โดยประยุกต์ใช้เทคโนโลยี

๒. พัฒนาองค์ความรู้ด้านการวิจัยทางการเกษตร เทคโนโลยี และนวัตกรรมเพื่อมุ่งสู่ความเชี่ยวชาญในระดับชาติ

๓. เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านเกษตรปลอดภัย

๔. ทำนุบำรุง สืบสานศิลปวัฒนธรรมเกษตรท้องถิ่น อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

๕. พัฒนาระบบการบริหารจัดการภายใต้หลักธรรมาภิบาล

๓.๖ นโยบายการบริหารงานตามพันธกิจ

ด้านการเรียนการสอน

๑. ส่งเสริมและสนับสนุนให้มีความเป็นเลิศทางวิชาการ โดยนำกระบวนการประกันคุณภาพการศึกษามาเป็นกลไกในการบริหารจัดการที่เอื้อประโยชน์ต่อการพัฒนาการเรียนการสอน

๒. ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมที่ช่วยให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผล

๓. ส่งเสริมการศึกษาด้านการค้นคว้าองค์ความรู้ใหม่เพื่อประโยชน์ทางวิชาการ

๔. ส่งเสริมความร่วมมือทางวิชาการระหว่างสถาบันตลอดจนสนับสนุนการบริการวิชาการและมีส่วนร่วมกับชุมชนในการพัฒนาท้องถิ่น

๕. ส่งเสริมและพัฒนาการจัดการศึกษาที่เน้นความเป็นเลิศด้านเกษตรปลอดภัย เพื่อให้เป็นที่ยอมรับในระดับชาติ

ด้านการวิจัย

๑. ส่งเสริมและสนับสนุนให้บุคลากรดำเนินการวิจัยเพื่อพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ ตลอดจนเพื่อพัฒนาการเรียนการสอน และนำไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาชุมชนและประเทศ

๒. ส่งเสริมและสนับสนุนให้บุคลากรได้รับทุนวิจัยจากทั้งภายในมหาวิทยาลัยและหน่วยงานภายนอก และจัดให้มีระบบสนับสนุนงานวิจัยเพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับนักวิจัยที่มีผลงานตีพิมพ์ในวารสารวิชาการนานาชาติที่ปรากฏในฐานข้อมูลงานของ สกอ.และ สกว.

๓. ส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการวิจัยด้านเกษตรปลอดภัย

๔. ส่งเสริมและสนับสนุนการทาวิจัยเพื่อแก้ปัญหาเชิงพื้นที่ เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์งานวิจัยของจังหวัดแพร่ และของชาติ และเป็นไปตามยุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัยแม่โจ้

๕. บูรณาการงานวิจัยกับการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาชุมชน/ท้องถิ่นอย่างเป็นระบบ



 

ด้านการบริการวิชาการและงานส่งเสริมสืบสานโครงการพระราชดาริ

๑. ส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมบริการวิชาการ เพื่อตอบสนองความต้องการของชุมชน ด้วยความตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อชุมชนและสังคม ดังนี้

      ๑.๑ จัดทำแบบสำรวจความต้องการของประชาชนในชุมชน/ท้องถิ่น

๑.๒ ประสานและส่งเสริมให้มีการบริการวิชาการและถ่ายทอดเทคโนโลยีตามแนวพระราชดาริ เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของมหาวิทยาลัยและสอดคล้องกับนโยบายของประเทศ

๑.๓ ส่งเสริมและสนับสนุนโครงการ/กิจกรรมการพัฒนาท้องถิ่นโดยเน้นการมีส่วนร่วมเพื่อสร้างชุมชนเข้มแข็งและยั่งยืนตามแนวพระราชดำริ

๑.๔ ให้ความร่วมมือกับประชาชน ชุมชน ผู้นำชุมชน องค์กรภาครัฐและเอกชน ในการพัฒนาชุมชน/ท้องถิ่น ตามแนวพระราชดาริ

 

ด้านกิจการนักศึกษา

๑. สร้างความรู้ ความสามารถ และความรับผิดชอบในการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ของนักศึกษา เพื่อประโยชน์ทั้งในด้านประสบการณ์ทำงานด้านวิชาการและวิชาชีพแก่นักศึกษา

๒. ส่งเสริมและสนับสนุนให้นักศึกษารู้จักใช้สิทธิ และหน้าที่ของตนเองในระบบประชาธิปไตย โดยปลูกฝังนักศึกษาให้มีความรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวม เคารพในสิทธิและหน้าที่ของผู้อื่น

๓. ส่งเสริมและสนับสนุนให้นักศึกษา เสียละ บำเพ็ญประโยชน์ อุทิศตนเพื่อประโยชน์ต่อส่วนรวม เพื่อเป็นคนดี คนเก่ง ของประเทศชาติ

 

ด้านทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม

๑. ส่งเสริมและสนับสนุนให้นักศึกษาและบุคลากรรักษาไว้ซึ่งศิลปวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี อันเป็นเอกลักษณ์ของชุมชนและประเทศชาติ

๒. ส่งเสริมและสนับสนุนให้นักศึกษาและบุคลากรเข้าร่วมกิจกรรมตามประเพณีสำคัญๆ ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ

๓. สร้างความตระหนักในคุณค่าของภูมิปัญญาท้องถิ่นและวิถีวัฒนธรรมไทยให้กับสังคม โดยผ่านกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างชุมชน

 

 

ด้านบริหารจัดการ

๑. ส่งเสริมและสนับสนุนให้มหาวิทยาลัยมีการจัดระบบการบริหารจัดการที่ดีตามหลัก   ธรรมมาภิบาล และกำหนดอำนาจหน้าที่ของบุคลากรให้ชัดเจน

๒. จัดระบบการบริหารทรัพยากรบุคคล จัดสร้าง และพัฒนาระบบข้อมูลเพื่อการตัดสินใจ

๓. ส่งเสริมและสนับสนุนให้บุคลากรมีส่วนร่วมในการบริหารและมีแนวทางหรือคู่มือในการบริหารจัดการ

๔.ดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างและระบบการบริหารให้สอดคล้องกับพันธกิจของมหาวิทยาลัย

๕.ส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการใช้ทรัพยากรร่วมกันกับหน่วยงานทั้งภายในและภายนอกมหาวิทยาลัยเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดอันจะก่อให้เกิดการประหยัดงบประมาณด้านการบริหารจัดการ

 

๔. ประเด็นยุทธศาสตร์

มหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่ เฉลิมพระเกียรติ ได้กำหนดประเด็นยุทธศาสตร์ในการพัฒนามหาวิทยาลัย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๑ ไว้จำนวน ๕ ประเด็นยุทธศาสตร์ เพื่อให้สอดคล้องกับพันธกิจของมหาวิทยาลัย ซึ่งได้แก่

๑. การเสริมสร้างวิชาการและทักษะวิชาชีพทางด้านเกษตรปลอดภัย โดยใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง

๒. การสร้างองค์ความรู้ทางด้านการเกษตรปลอดภัยและพัฒนานวัตกรรมบนพื้นฐานเทคโนโลยีการเกษตรให้เป็นที่ยอมรับในระดับชาติ

๓. เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านเกษตรปลอดภัย

๔. เป็นศูนย์เรียนรู้ทางวัฒนธรรมเกษตรท้องถิ่น และอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

๕. การพัฒนาระบบการบริหารจัดการภายใต้หลักธรรมาภิบาล

ลักษณะงานที่ต้องปฏิบัติ

 

ชื่อผู้ปฏิบัติงาน นายภาคภูมิ บุญมาภิ

ชื่อตำแหน่ง นักวิชาการศึกษา

หน้าที่และความรับผิดชอบ

ปฏิบัติงานด้านคอมพิวเตอร์เทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านการศึกษา และปฏิบัติหน้าที่อื่นที่เกี่ยวข้องกับทางการศึกษา

ลักษณะงานที่ปฏิบัติ

ปฏิบัติงานเกี่ยวกับงานวิทยาการคอมพิวเตอร์ โดยปฏิบัติหน้าที่อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลายอย่าง เช่น ทำหน้าที่ในการติดตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ติดตั้งชุดคำสั่งสำเร็จรูป ใช้ ปรับปรุง แก้ไขแฟ้มข้อมูล เขียนชุดคำสั่ง ตามข้อกำหนดของระบบงานที่ได้วางแผนไว้แล้ว ทดสอบความ ถูกต้องของคำสั่ง แก้ไขข้อผิดพลาดของคำสั่ง ปรับปรุงและบริหารจัดการเว็บไซต์ ระบบสารสนเทศของฝ่ายงาน และปฏิบัติหน้าที่อื่นที่เกี่ยวข้อง  

วัตถุประสงค์ของการปฏิบัติติงาน

  1. ความพึงพอใจของผู้รับบริการ

  2. กระบวนการทำงานที่มีประสิทธิภาพ

  3. ข้อมูลถูกต้องแม่นยำ

  4. การลดระยะเวลาการทำงานและบริการ

  5. การพัฒนาระบบสารสนเทศที่มีประสิทธิภาพเพื่อการตัดสินใจ

  6. การบริหารทรัพยากรที่มีประสิทธิภาพ

 

ขั้นตอนระบบงาน

๑. ระบบสหกิจ

หลักการและเหตุผล

เป็นระบบการศึกษาที่เน้นการปฏิบัติงานในสถานประกอบการอย่างมีระบบ โดยจัดให้มีการเรียนในสถานศึกษา ร่วมกับการจัดให้นักศึกษาไปปฏิบัติงานจริง ณ สถานประกอบการที่ให้ความร่วมมือ เป็นเวลา 16 สัปดาห์ นักศึกษาสามารถเรียนรู้ประสบการณ์จากการไปปฏิบัติงาน และทำให้นักศึกษามีคุณภาพตรง ตามที่ สถานประกอบการต้องการมากที่สุด มีกระบวนการดำเนินงานสหกิจศึกษา ดังนี้

๑. อาจารย์ประจำสาขาวิชา

รับผิดชอบการปฏิบัติงานของนักศึกษาในสาขาวิชาของตน ประสานงานกับสถานประกอบการที่มีความสัมพันธ์กับหลักสูตรอยู่แล้ว เพื่อให้ได้สถานประกอบการที่สามารถรับนักศึกษาไปปฏิบัติงานได้ ประชาสัมพันธ์ตำแหน่งงาน คัดเลือกนักศึกษาลงตำแหน่งงาน และ ประกาศผลการคัดเลือก 

๒. นักศึกษาหาตำแหน่งงาน 

นักศึกษากรอกคำร้องต่าง ๆ เพื่อขอสมัครเข้าปฏิบัติงานสหกิจศึกษา เสมือนเป็นพนักงานชั่วคราว ลักษณะงานที่ปฏิบัติ ได้รับความเห็นชอบ และเขียนเป็นโครงการ โดยมีพนักงานผู้รับผิดชอบฝ่ายสถานประกอบการ และ อาจารย์ที่ปรึกษาสหกิจศึกษา จากทางมหาวิทยาลัย


๓. แจ้งความประสงค์ในการรับนักศึกษาสหกิจศึกษา

สถานประกอบการแจ้งความประสงค์ตอบรับนักศึกษาสหกิจเข้าปฏิบัติงาน
 

 

รายละเอียดขั้นตอนการขอไปปฏิบัติงานระบบงานสหกิจศึกษา

  1. เข้าสู่ระบบเพื่อบันทึกข้อมูลนักศึกษาและสถานประกอบการ ให้เข้าเว็บไซต์ฝ่ายงานวิชาการ http://vichakarn.phrae.mju.ac.th/e-student/

ภาพที่ ๑ Web page แรกเข้าฝ่ายวิชาการ


 

  1. เข้าสู่ระบบโดยการป้อนรหัสนักศึกษา และรหัสผ่านระบบInternet มหาวิทายาลัย โดยเลือกนักศึกษา

ภาพที่ ๒ Web page แสดงการเข้าระบบ

 

  1. ให้คลิกเมนู “สหกิจศึกษา”

ภาพที่ ๓ แสดงเมนูการเข้าระบบสหกิจศึกษา


 

  1. เมื่อคลิกเมนู “สหกิจศึกษา” จะปรากฏหน้าจอแบบฟอร์มให้คลิกเลือกกรอข้อมูล ในข้อ 1            (คำร้องขอไปปฏิบัติติงานสหกิจศึกษา) ดังรูปภาพ

ภาพที่ ๔ แสดงเมนูแบบฟอร์มการขอไปปฏิบัติงานสหกิจศึกษา




 

  1. เมื่อคลิกเลือกกรอกข้อมูล ในข้อ 1 จะปรากฏหน้าจอรายละเอียดการกรอกข้อมูล โดยคีย์ข้อมูลสถานประกอบการและข้อมูลเบื้องต้น กดปุ่มบันทึก เป็นการสิ้นสุดขั้นตอนการกรอกคำร้องไปปฏิบัติงานสหกิจศึกษา (รออาจารย์ประจำสาขาเป็นผู้อนุมัติ)

 

ภาพที่ ๕ ภาพการบันทึกข้อมูลการขอไปปฏิบัติงานสหกิกศึกษา


 

  1. อาจารย์ประจำสาขาวิชา อนุมัติคำร้องขอไปปฏิบัติติงานสหกิจศึกษา

ภาพที่ ๖ ภาพข้อมูลการอนุมัติคำร้องไปปฎิบัติงานสหกิจ


 

  1. เมื่อได้รับการอนุมัติในศึกษากรอกแบบฟอร์มการสมัครงานทุกข้อให้แสดงเครื่องหมายถูก            (รอเจ้าหน้าที่ ส่งให้สถานประกอบการอนุมัติ)

ภาพที่ ๗ ภาพข้อมูลแบบฟอร์มการสมัครงานที่ใช้กับสถานประกอบการ

 

  1. ประกาศผลการสมัครงานแก่นักศึกษารับทราบ

 

การกรอกแบบฟอร์มไปปฏิบัติงานสหกิจศึกษา

ผังขั้นตอนการปฏิบัติงาน

รายละเอียดงาน

ผู้เกี่ยวข้อง


ทำการบันทึกคำร้องขอไปปฏิบัติงานสหกิจ (๑) ขอส่งถึงอาจารย์ประจำสาขา

นักศึกษา


อาจารย์ประจำสาขาวิชาเป็น ตรวจสอบข้อมูล และเป็นผู้อนุมัติ

อาจารย์ประจำสาขาวิชา


ได้รับอนุมัติ อาจารย์ประจำสาขาวิชา นักศึกษาสามารถกรอกแบบฟอร์มสมัครงาน (๒) ได้

นักศึกษา


เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ และเป็นผู้อนุมัติแบบฟอร์มการสมัครงาน

เจ้าหน้าที่งานสหกิจ


เจ้าหน้าที่พิมพ์เอกสารส่งให้กับคณบดี และส่งเอกสารสมัครงานแก่ผู้ประกอบการตอบรับ

เจ้าหน้าที่งานสหกิจและผู้ประกอบการ


จัดทำการประกาศการตอบรับสหกิจศึกษาจากสถานประกอบให้นักศึกษารับทราบ

เจ้าหน้าที่งานสหกิจ

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

  1. ใช้ระบบออนไลน์สะดวกสบายในด้านการกรอกข้อมูล แก้ไขข้อมูล และดูรายละเอียด ทำให้สามารถลดปริมาณในการใช้กระดาษลง  

  2. การติดต่อสื่อสารหรือส่งข้อมูลถึงเจ้าหน้าที่หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้ถูกต้อง รวดเร็ว

  3. ลดเวลาในการทำงานของเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบงานสหกิจ ในเรื่องของการพิมพ์ใบคำร้องต่าง ๆ เพื่อขออนุมัติ จากมหาวิทยาลัย

  4. มีการจัดเก็บข้อมูลลงในฐานข้อมูล สามารถค้นหาข้อมูลได้สะดวก รวดเร็ว

 

๒. ระบบจัดการแผนการศึกษา

แผนพัฒนาคุณภาพศึกษาเป็นข้อตกลงร่วมกันระหว่างสถานศึกษากับนักศึกษา โดยคณะกรรมการสถานศึกษา เพื่อใช้เป็นแผนแม่บทที่จะกำหนดเป้าหมายและแนวทางในการพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษาในช่วงระยะเวลาที่กำหนด โดยจัดทำไว้เป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าสถานศึกษาจะดำเนินงานตามข้อตกลงที่กำหนดร่วมกันนั้น

ดังนั้นทางมหาวิทยาลัยจึงได้จัดการประชุมการจัดทำแผนการศึกษา ก่อนการเปิดภาคการศึกษาขึ้นทุกปี ในการประชุมจัดทำแผนการศึกษานั้นจำเป็นต้องมีข้อมูลแผนการศึกษาของนักศึกษาทุกชั้นปี เพื่อใช้ในดำเนินการจัดรายวิชาของกลุ่มศึกษาทั่วไป กลุ่มวิทยาศาสตร์พื้นฐาน (นักศึกษาทุกสาขาต้องเรียน) และกลุ่มนักศึกษาที่จำเป็นต้องเปิดรายวิชาเรียน เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ทางฝ่ายงานวิชาการเล็งเห็นความสำคัญของแผนการศึกษา จึงให้พัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อใช้ในการจัดทำแผนการศึกษา มีข้อมูลที่ถูกต้อง สะดวก รวดเร็ว สามารถตอบโจทย์ของคณาจารย์ของแต่ละสาขาวิชาที่ต้องการรู้ว่ารายวิชาที่ได้จัดการเรียนการสอนไปแล้วนั้น มีรายวิชาอะไรบ้าง ครบหลักสูตรหรือไม่ อาจารย์แต่ละท่านสอนรายวิชาไหนบ้าง และรายวิชาที่เปิดนั้นมีรายวิชา P ตัวไหนบ้าง จะทำให้การดำเนินจัดทำแผนการศึกษาเกิดความถูกต้อง รวดเร็ว ก่อนที่จะเปิดภาคการศึกษา

รายละเอียดขั้นตอนการเตรียมข้อมูลจัดแผนการศึกษา

การจัดแผนการศึกษาแต่ละครั้งนั้นเจ้าหน้าที่ต้องเพิ่มข้อมูลรายวิชาในระบบของแต่ละหลักสูตรลงไปก่อน เป็นการจำลองข้อมูลก่อนที่จะบันทึกข้อมูลแผนการศึกษาในระบบลงทะเบียน และเปิดให้นักศึกษาลงทะเบียนต่อไป

  1. เข้าสู่ระบบเพื่อจัดการระบบแผนการศึกษา ให้เข้าเว็บไซต์ฝ่ายงานวิชาการ http://vichakarn.phrae.mju.ac.th/e-student/

ภาพที่ ๑ Web page แรกเข้าฝ่ายวิชาการ

 

  1. เข้าสู่ระบบโดยการป้อนชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านระบบ เลือกสถานะ “เจ้าหน้าที่”

ภาพที่ ๒ Web page แสดงการเข้าระบบ

หมายเหตุ ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านระบบ ใช้ของอีเมล์ phrae.mju.ac.th หรือ mju.ac.th โดยการเลือกเปลี่ยนที่เครื่องหมาย @

 

  1. ให้คลิกเลือกเมนู “ระบบจัดการแผนการศึกษา”

ภาพที่ ๓ Web page แสดงข้อมูลระบบสารสนเทศ

 

  1. แสดงเมนูข้อมูลต่าง ๆ ที่ใช้ในการจัดการแผนการศึกษา เลือกคลิก “โครงสร้างหลักสูตร”

ภาพที่ ๔ แสดงรายการเมนูของระบบจัดการแผนการศึกษา

 

  1. แสดงโครงสร้างหลักสูตร จากตัวอย่างแสดงข้อมูล สาขาวิชาการบัญชี รหัส 61 เจ้าหน้าที่ทำการพิมพ์ข้อมูลเพื่อใช้ในการประชุมแผนการศึกษา และสามารถปรับเปลี่ยนผู้สอนรายวิชาได้

ภาพที่ ๕ แสดงข้อมูลรายวิชาในหลักสูตรการบัญชี รหัส 61

หมายเหตุ ภาพตัวอย่างนี้แสดงข้อมูลบางส่วนเพื่อใช้ยกตัวอย่างการแสดงข้อมูลรายวิชาเท่านั้น

 

  1. ส่วนแสดงการพิมพ์ข้อมูลแผนการศึกษาตามปีการศึกษา จากรูปภาพแสดงข้อมูล สาขาวิชาบัญชี ๔ ปี ปีการศึกษา ๒๕๖๑ เจ้าหน้าที่พิมพ์ข้อมูลของทุกสาขาวิชา เพื่อนำไปประกอบการประชุมจัดทำแผนการศึกษา (ยืนยันการเปิดรายวิชา)

ภาพที่ ๖ แสดงข้อมูลรายวิชาในหลักสูตรการบัญชี รหัส 61

 

  1. เมื่อมีการประชุมแผนการศึกษาเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่นำข้อมูลมาปรับเปลี่ยนและบันทึก (ภาพที่๕) ระบบแสดงรายวิชา ชื่อผู้สอน (ภาพที่๖) และดำเนินการบันทึกข้อมูลเปิดรายวิชาให้นักศึกษาลงเบียน

 

การประสานงานรวบรวมจัดทำแผนการศึกษา

ผังขั้นตอนการปฏิบัติงาน

รายละเอียดงาน

ผู้เกี่ยวข้อง


นำรายวิชาเข้าระบบตามหลักสูตร ใหม่ ในแต่ละสาขาวิชา (ชั้นปี 1)



 

เจ้าหน้าที่หลักสูตร


พิมพ์เอกสารรายวิชาในแต่ละสาขาวิชาที่เรียน ตามภาคการศึกษาและปีการศึกษา

เจ้าหน้าที่หลักสูตร


ร่วมพิจารณารายวิชาเปิดสอนแต่ละสาขาวิชา และอาจารย์ประจำสาขาวิชา ยืนยันแผนการศึกษา

รองฝ่ายงานวิชาการ

และคณาจารย์


ได้รับการยืนยันแผนการศึกษาจาก อาจารย์ประจำสาขาวิชา เจ้าหน้าที่หลักสูตรปรับแก้ตามคำยืนยัน

เจ้าหน้าที่หลักสูตร


ตรวจสอบความถูกต้อง และพิมพ์เอกสารข้อมูลรายวิชาทั้งหมดส่งให้กับเจ้าหน้าที่ทะเบียน



 

เจ้าหน้าที่หลักสูตร


เจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูลรายวิชาเพื่อเปิดให้นักศึกษาลงทะเบียนเรียน

เจ้าหน้าที่ทะเบียน

 

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

  1. วางแผนการเปิดรายวิชา สำหรับนักศึกษาตกค้าง ก่อนเปิดรายวิชาให้นักศึกษาลงทะเบียนได้

  2. ติดตามรายวิชาที่เปิดเรียนครบหลักสูตรหรือไม่

  3. สะดวกสบายในด้านการกรอกข้อมูล แก้ไขข้อมูล และดูรายละเอียดข้อมูลจากที่ไหนก็ได้ที่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต

  4. ลดเวลาในการทำงาน ในเรื่องของการพิมพ์เอกสารหลักสูตรต่าง ๆ

  5. มีการจัดเก็บข้อมูลลงในฐานข้อมูล สามารถค้นหาข้อมูลได้สะดวก รวดเร็ว

 

๓. ระบบการจัดการสอบและผลิตข้อสอบ

เนื่องด้วยมหาวิทยาลัยได้กำหนดการสอบกลางภาคและปลายภาคทุกปีการศึกษา เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบทางด้านการเรียนการสอนจึงจำเป็นต้องจัดระเบียบตารางการสอบขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการระบุห้องสอบ วันและเวลาสอบ ผู้ควบคุมการสอบของแต่ละรายวิชา และอาจารย์จำเป็นต้องออกข้อสอบในแต่ละรายวิชา เพื่อส่งให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบในการผลิตข้อสอบ ทำการผลิต ส่งผลให้อาจารย์จำเป็นต้องมีข้อมูลรายวิชา ห้องสอบ สาขาวิชาของผู้เข้าสอบ จำนวนผู้เข้าสอบ รายชื่อผู้เข้าสอบ วัน เวลา และอาจารย์ผู้ควบคุมห้องสอบ เพื่อใช้ในการเขียนข้อมูลการสอบในแต่ละรายวิชา (ใบปะหน้าข้อมูล)  ซึ่งในแต่ละอาจารย์ผู้สอนมีรายวิชาที่รับผิดชอบมากกว่า ๑ รายวิชา ทำให้เกิดการล่าช้าในการหาข้อมูลมาเขียนลงในใบปะหน้าข้อสอบ

ดังนั้น จึงได้พัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ เกี่ยวกับข้อมูลการสอบ ให้มีการพิมพ์ข้อมูลการสอบ (ใบปะหน้าข้อสอบ) และการแจ้งการผลิตข้อสอบให้รับทราบ ตรวจเช็คจำนวนข้อสอบในคลังข้อสอบ ตรวจผู้รับส่งข้อสอบ และนำไปตรวจ เพื่ออำนวยความสะดวกให้คณาจารย์ผู้สอน เจ้าหน้าที่ผู้ผลิตข้อสอบ และให้การจัดการสอบเป็นไปได้ความถูกต้องรวดเร็ว

 

รายละเอียดขั้นตอน ระบบการจัดการผลิตข้อสอบ (ในส่วนของเจ้าหน้าที่)

  1. เข้าสู่ระบบเพื่อจัดการระบบแผนการศึกษา ให้เข้าเว็บไซต์ฝ่ายงานวิชาการ http://vichakarn.phrae.mju.ac.th/e-student/

ภาพที่ ๑ Web page แรกเข้าฝ่ายวิชาการ

 

  1. เข้าสู่ระบบโดยการป้อนชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านระบบ เลือกสถานะ “เจ้าหน้าที่”

ภาพที่ ๒ Web page แสดงการเข้าระบบ

หมายเหตุ ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านระบบ ใช้ของอีเมล์ phrae.mju.ac.th หรือ mju.ac.th โดยการเลือกเปลี่ยนที่เครื่องหมาย @

 

  1. ให้คลิกเลือกเมนู “ระบบการสอบ”

ภาพที่ ๓ Web page แสดงข้อมูลระบบสารสนเทศ

 

  1. แสดงเมนูระบบการสอบ คลิกเลือก “กำหนดฐานข้อมูลการสอบ” กำหนดปีการศึกษา ภาคเรียน ช่วงการสอบ (M สอบกลางภาค F สอบปลายภาค) และช่วงเวลาการสอบ

ภาพที่ ๔ แสดงหน้าจอกำหนดฐานข้อมูลการสอบ

ภาพที่ ๕ แสดงหน้าจอกำหนดฐานข้อมูลการสอบ

 

  1. เมื่อกำหนดฐานข้อมูลการสอบเรียบร้อยแล้ว คณาจารย์สามารถเข้าไปดูข้อมูลการสอบ และพิมพ์ใบปะหน้าข้อสอบนำมาติดกับซองข้อสอบ


 

  1. แสดงหน้าจอ การผลิตข้อสอบ แสดงลำดับคิวการผลิต ชื่อผู้รับงานผลิต สถานการณ์ผลิตข้อสอบ จำนวนรายวิชาทั้งหมดที่เข้าสอบ สถานะข้อสอบเข้าคลังข้อสอบ รายชื่อผู้ที่ยังไม่ส่งข้อสอบมาดำเนินการผลิต

 

  1. เมื่อเจ้าหน้าที่ผลิตข้อสอบเสร็จ ระบบจะแจ้งสถานการณ์ผลิตข้อสอบไปยังอาจารย์เจ้าของรายวิชา ให้มาตรวจสอบความถูกต้อง ของตัวข้อสอบ พร้อมบันทึกลายมือผู้ตรวจสอบ แล้วจึงนำเข้าคลังข้อสอบเพื่อดำเนินการสอบต่อไป

 

รายละเอียดขั้นตอน ระบบการรับ-จ่ายข้อสอบ (ในส่วนของเจ้าหน้าที่)

  1. เลือกเมนู “ระบบรับจ่าย-ข้อสอบ”

 

  1. แสดงหน้าจอ การรับจ่ายข้อสอบ กรอกรหัสข้อสอบหรือใช้เครื่องสแกนบาร์โค้ดสแกนที่ใบปะหน้าข้อสอบ ระบบจะแสดงข้อมูลของข้อสอบ เจ้าหน้าที่ตรวจเช็ครายชื่อผู้คุมสอบตรงกับผู้มารับข้อสอบหรือไม่ แล้วทำการยืนยัน การรับข้อสอบ

 

  1. เมื่อทำการสอบเสร็จแล้ว นำข้อสอบส่งให้เจ้าหน้าที่ หรืออาจารย์เจ้าของวิชานำไปตรวจ กรอกรหัสข้อสอบหรือใช้เครื่องสแกนบาร์โค้ดสแกนที่ใบปะหน้าข้อสอบ ระบบจะแสดงข้อมูลของข้อสอบ เจ้าหน้าที่ตรวจเช็ครายชื่อผู้ส่งข้อสอบตรงกับเจ้าของรายวิชาที่ใบปะหน้าข้อสอบหรือไม่ แล้วทำการยืนยัน

หมายเหตุ กรณีที่เจ้าของรายวิชามาส่งข้อสอบแล้วต้องการรับไปตรวจ ให้เจ้าหน้าบันทึก 2 รูปแบบการบันทึก คือ การส่งข้อสอบและการนำข้อสอบไปตรวจด้วย

การส่งข้อสอบกลางภาค

ผังขั้นตอนการปฏิบัติงาน

รายละเอียดงาน

ผู้เกี่ยวข้อง

๑.

อาจารย์เจ้าของรายวิชา เป็นผู้บันทึกส่งรายวิชาที่ต้องการ ให้เจ้าหน้าที่จัดการสอบกลางภาค

อาจารย์เจ้าของวิชา

๒.

เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลรายวิชาทั้งหมด ทำการจัดตาราง ห้อง วัน เวลาและผู้กำกับสอบ สอบกลางภาค

เจ้าหน้าที่

๓.

คณาจารย์เจ้าของรายวิชาตรวจสอบ วัน เวลา ห้องสอบ รายวิชาที่จัดสอบ

เจ้าหน้าที่ และคณาจารย์



 

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

  1. ความถูกต้องของข้อมูลในใบปะหน้าข้อสอบ

  2. ตรวจสอบและติดตามข้อสอบได้

  3. เจ้าหน้าที่สามารถตรวจเช็คจำนวนข้อสอบที่จัดสอบ

  4. ลดเวลาในการทำงาน ในเรื่องของการพิมพ์เอกสารหลักสูตรต่าง ๆ

  5. มีการจัดเก็บข้อมูลลงในฐานข้อมูล สามารถค้นหาข้อมูลได้สะดวก รวดเร็ว


 

๔. ระบบส่งเอกสาร (มคอ.) ออนไลน์

หลักการและเหตุผล

อ้างถึงงานประกันคุณภาพ ตัวบ่งชี้ที่ 5.2 การวางระบบผู้สอนและกระบวนการจัดการเรียนการสอน หลักสูตรต้องให้ความสำคัญการวางระบบผู้สอนในแต่ละรายวิชา การกำกับ ติดตาม และตรวจสอบการจัดทำแผนการเรียนรู้ (มคอ.๓ และ มคอ.๔) และการจัดการเรียนการสอน

ทางฝ่ายงานวิชาการเห็นความสำคัญในการประเมินคุณภาพการศึกษาในทุกประเด็น เพื่อเป็นการไม่ให้การประเมินด้านตัวบ่งชี้ที่ 5.2 การวางระบบผู้สอนและกระบวนการจัดการเรียนการสอน หลักสูตรลดลง จึงจำเป็นต้องพัฒนาระบบสารสนเทศในการจัดการในเรื่องการกำกับ ติดตามและตรวจสอบ แผนการเรียนรู้ (มคอ.๓ มคอ.๔ มคอ.๕ และเค้าโครงการสอน) และการจัดการเรียนการสอน จากอาจารย์เจ้าของวิชาขึ้น

 

รายละเอียดขั้นตอน ระบบส่งเอกสาร (มคอ.) ออนไลน์ (ในส่วนของคณาจารย์)

  1. ให้เข้าเว็บไซต์ฝ่ายงานวิชาการ http://vichakarn.phrae.mju.ac.th/e-student/

ภาพที่ ๑ Web page แรกเข้าฝ่ายวิชาการ

 

  1. เข้าสู่ระบบโดยการป้อนชื่อผู้ใช้ และรหัสผ่าน โดยเลือก “อาจารย์”

ภาพที่ ๒ Web page แสดงการเข้าระบบ

หมายเหตุ ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านระบบ ใช้ของอีเมล์ phrae.mju.ac.th หรือ mju.ac.th โดยการเลือกเปลี่ยนที่เครื่องหมาย @

  1. เลือกเมนู “เอกสารตามกรอบ TQF”

ภาพที่ ๓ Web page แสดงรายการเมนูของระบบ

 

  1. จะปรากฎรายการส่งเอกสาร มคอ.ต่าง ๆ ในแต่ละภาคการศึกษา แสดงจำนวนรายวิชาที่คงค้างการส่งเอกสาร เลือกเอกสารมคอ.ที่ต้องการ โดยการคลิกส่งเอกสาร หรือรายวิชาที่คงค้าง

ภาพที่ ๔ Web page แสดงรายการเอกสาร มคอ.ต่าง ๆ

 

  1. เมื่อคลิกส่งเอกสาร จะปรากฏหน้ารายวิชาที่ต้องส่งเอกสาร ให้ทำการเลือกรายวิชา โดยการคลิกช่องสี่เหลี่ยมหน้าชื่อรายวิชา (หมายเลข ๒) แล้วทำการ คลิก Browser เลือกไฟล์ข้อมูลในเครื่อง (หมายเลข ๓) คลิกปุ่มบันทึกเพื่อส่งเอกสาร

ภาพที่ ๕ Web page แสดงข้อมูลรายวิชาที่จะต้องส่งเอกสาร มคอ.

หมายเหตุ สามารถดูประเภทของ มคอ.ได้ ตรงแถบสีด้านบน (หมายเลข ๑)

 

  1. เมื่อทำการส่งเอกสารเรียบร้อยแล้วจะปรากฏหน้าจอแสดงผลการส่งข้อมูล

ภาพที่ ๖ Web page แสดงผลการส่งไฟล์ข้อมูล

หมายเหตุ ถ้าท่านยังไม่ได้คลิกปุ่มยืนยันการส่งเอกสาร (หมายเลข ๑) ท่านสามารถลบไฟล์แล้วส่งไฟล์ใหม่ได้ แต่ถ้ากรณีที่ท่านยืนยันการส่งเอกสารไปแล้ว ท่านสามารถส่งคำขอแก้ไขข้อมูล (หมายเลข ๒) ให้เจ้าหน้าปลดล็อคการแก้ไขให้ไฟล์ของท่าน

 

  1. แสดงรายการเมื่อส่งไฟล์เอกสารเสร็จสมบูรณ์ จะปรากฏรูปแม่กุญแจและบอกวันที่ เวลาส่งเอกสาร

ภาพที่ ๗ Web page แสดงผลการส่งไฟล์ข้อมูลเสร็จสมบูรณ์

 

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

  1. ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการกำกับ ติดตามและตรวจสอบสถานะส่งเอกสารของผู้รับผิดชอบแต่ละวิชาได้ถูกต้อง และรวดเร็ว

  2. ลดปริมาณกระดาษอย่างมาก เนื่องจากจัดเก็บเป็นไฟล์ข้อมูล

  3. ค้นหาข้อมูลได้สะดวก รวดเร็ว ถูกต้อง

  4. ลดเวลาในการทำงาน ในเรื่องของการพิมพ์เอกสารส่งให้เจ้าหน้าที่

 

๕. ระบบลงทะเบียนอบรม/สัมมนา

หลักการและเหตุผล

การจัดโครงการในส่วนของฝ่ายวิชาการ ในแต่ละปีการศึกษาจะมีโครงการเกี่ยวกับอาจารย์ บุคลากรและนักศึกษาจำนวนมาก เพื่อให้การรายงานผลจำนวนการจัดโครงการในรอบปี แสดงผู้เข้าร่วมโครงการ สามารถแยกวันจัดอบรมให้นักศึกษาเลือกลงทะเบียนได้ สะดวก รวดเร็ว จึงจัดทำระบบละทะเบียนอบรม/สัมมนาออนไลน์ขึ้น

 

รายละเอียดขั้นตอน ระบบจัดการโครงการอบรม/สัมมนา

  1. เข้าสู่ระบบจัดการโครงการอบรม/สัมมนา ให้เข้าเว็บไซต์ฝ่ายงานวิชาการ http://vichakarn.phrae.mju.ac.th/e-student/

ภาพที่ ๑ Web page แรกเข้าฝ่ายวิชาการ

 

  1. เข้าสู่ระบบโดยการป้อนชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านระบบ เลือกสถานะ “เจ้าหน้าที่”

ภาพที่ ๒ Web page แสดงการเข้าระบบ

หมายเหตุ ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านระบบ ใช้ของอีเมล์ phrae.mju.ac.th หรือ mju.ac.th โดยการเลือกเปลี่ยนที่เครื่องหมาย @

  1. เลือกเมนู “ระบบจัดการโครงการอบรม/สัมมนา”

ภาพที่ ๓ Web page แสดงรายชื่อระบบสารสนเทศ

 

  1. คลิกเพิ่มหัวข้อการลงทะเบียน

ภาพที่ ๔ Web page แสดงเมนูระบบจัดการโครงการอบรม/สัมมนา

 

  1. กรอกรายละเอียดโครงการต่าง ๆ

ภาพที่ ๕ Web page แสดงแบบฟอร์มข้อมูลโครงการ

 

  1. เมื่อบันทึกข้อมูลแล้ว ระบบจะแสดงรายการที่ท่านได้บันทึก ให้ลงทะเบียนออนไลน์ได้

ภาพที่ ๖ Web page แสดงหัวข้อโครงการฝึกอบรม/สัมมนา

 

  1. แสดงหน้าจอ รายละเอียดข้อมูลของโครงการ พร้อมปุ่มการยืนยันการลงทะเบียน

ภาพที่ ๗ Web page แสดงรายละเอียดข้อมูลโครงการและปุ่มยืนยันการลงทะเบียน

 

  1. เมื่อยืนยันการลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว สามารถดูผลการลงทะเบียนได้ โดยการคลิกปุ่ม “ดูรายชื่อ” ระบบจะแสดงหน้าจอรายชื่อและรายละเอียดข้อมูลโครงการ

ภาพที่ ๘ Web page แสดงผลการยืนยันการลงทะเบียนโครงการ

 

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

  1. จัดสรรงบประมาณในโครงการ เช่น ค่าเอกสาร ค่าอาหาร ต่าง ๆ

  2. สะดวก สบาย ในการลงทะเบียน

  3. ค้นหาข้อมูลได้สะดวก รวดเร็ว ถูกต้อง

  4. ใช้เป็นฐานข้อมูล อ้างอิงการเข้าร่วมโครงการต่าง ๆ

 

๖. ระบบจัดการเว็บไซด์

ในปัจจุบันการเราจะเห็นเว็บไซด์ต่าง ๆ มีการให้ข้อมูล ข่าวสาร ทั้งภาพและเสียง จำนวนมาก ซึ่งการให้ข้อมูล ข่าวสารต่าง ๆ ล้วนแล้วแต่ใช้ในการสื่อสาร โฆษณา ประชาสัมพันธ์ให้กับผู้อ่านเข้าใจหรือสนใจในเนื้อหาต่าง ๆ ในเว็บไซด์นั้น และในทางการศึกษาก็จำเป็นต้องใช้การสื่อสารประชาสัมพันธ์ให้กับประชาชน นักศึกษา ผู้ที่สนใจ ได้รับความรู้ ความเข้าใจและเข้าถึงข้อมูลในสถานศึกษาให้มากที่สุด

ทางมหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่ เฉลิมพระเกียรติ และภาคสาขาวิชาต่าง ๆ จำเป็นต้องมีเว็บไซด์สาขาวิชา เพื่อให้ข้อมูล เกี่ยวกับสาขาวิชา กิจกรรม หรือหลักสูตร กับนักศึกษาผู้ที่สนใจในหลักสูตรการเรียนการสอน และให้เกิดความสะดวกสบายในการเข้าถึงข้อมูล แต่ด้วยเว็บไซด์ของมหาวิทายาลัยมีจำนวนมาก บุคลากรผู้ดูแลระบบไม่เพียงพอต่อการจัดการข้อมูลที่ทันเหตุการณ์ปัจจุบัน ในการจัดการเว็บไซด์จึงจำเป็นต้องมีผู้ดูแลรับผิดชอบ ในการอัพเดตข้อมูลต่าง ๆ ในแต่ละเว็บไซด์ จึงได้พัฒนาระบบจัดการเว็บไซด์ขึ้น เพื่อให้บุคลากรเข้าจัดการระบบแบบง่ายๆ ไม่ยุ่งยากเหมือนโปรแกรมสำเร็จรูป และเกิดการยืดหยุ่นตามความต้องการของสาขาวิชาและหน่วยงาน

 

รายละเอียดขั้นตอน ระบบจัดการเว็บไซด์

  1. เข้าสู่ระบบจัดการเว็บไซด์ให้เข้าเว็บไซต์มหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่ เฉลิมพระเกียรติ http://www.phrae.mju.ac.th  เลือกแถบเมนู “ระบบสารสนเทศ” แล้วคลิกตรงชื่อ “ระบบจัดการเว็บไซด์”

ภาพที่ ๑ Web page แรกเข้าระบบจัดการเว็บไซด์

 

  1. เข้าสู่ระบบโดยการป้อนชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านระบบ  

ภาพที่ ๒ Web page แสดงการเข้าระบบ

หมายเหตุ ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านระบบ ใช้ของอีเมล์ phrae.mju.ac.th หรือ mju.ac.th อย่างใดอย่างหนึ่ง

  1. แสดงหน้าจอเมนูระบบสารสนเทศ โดยแบ่งเป็น ๒ ส่วน คือ ๑. ส่วนเว็บเทมเพลต ๒. ส่วนระบบสารสนเทศ ให้ดูส่วนเว็บเทมเพลตที่ท่านได้รับสิทธิ์ จัดการเว็บไซด์นั้น คลิกคำว่า “จัดการข้อมูล”

ภาพที่ ๓ Web page แสดงเมนูของระบบสารสนเทศ

 

  1. เมื่อคลิกจัดการข้อมูลเข้ามาแล้ว จะแสดงหน้าจอโดยแบ่งออกเป็น ๒ ส่วน คือ

ส่วนที่ ๑ เมนูระบบจัดการเว็บไซด์ ประกอบด้วยเมนูดังนี้

๑.๑ ข้อมูลเว็บ

๑.๒ เมนูเว็บ

๑.๓ โครงสร้างบุคลากร

๑.๔ ปฏิทิน

๑.๕ อัพโหลดไฟล์ข้อมูล

๑.๖ กิจกรรม

๑.๗ แบนเนอร์

๑.๘ ข่าว

 

ส่วนที่ ๒ การจัดการข้อมูลเว็บไซด์

ระบบจะแสดงค่าเริ่มต้นของเว็บเทมเพลต เช่น คิวอาร์โค้ด และข้อมูลของเว็บเทมเพลต  สามารถ

เปลี่ยนแปลงข้อมูลเว็บไซด์แล้วกดปุ่ม “บันทึกข้อมูล”

 

ภาพที่ ๔ Web page แสดงข้อมูลค่าเริ่มต้นของระบบจัดการเว็บไซด์

 

ขั้นตอนการเพิ่มเมนูในเว็บไซด์

  1. คลิกคำว่า “เมนู” ในส่วนที่ ๑ (ภาพที่ ๔) จากนั้นจะแสดงหน้าจอให้กรอกข้อมูลของเมนูเว็บไซด์ ชื่อเมนูภาษาไทย ภาษาอังกฤษ ลิงค์ ตำแหน่ง กลุ่มของเมนู

 

  1. ตัวอย่างเว็บเทมเพลต

 

ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ

  1. จัดการข้อมูลต่าง ๆ เว็บไซด์ง่าย สะดวก รวดเร็ว

  2. อัพเดตข้อมูลต่าง ๆ ได้ทันเหตุการณ์

  3. ยืดหยุ่นกับสาขาวิชา และหน่วยงานมหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่ เฉลิมพระเกียรติ

  4. ใช้ฐานข้อมูลเก็บ กิจกรรม ข่าวสารต่าง ๆ ในแต่ละปี ง่ายต่อการค้นหาข้อมูลทางกิจกรรม และข่าวสาร


 

ขั้นตอนระบบงาน เรื่อง การจัดฝึกอบรม

๑. วัตถุประสงค์

เพื่ออธิบายขั้นตอนการดาเนินการฝึกอบรมให้แก่คณาจารย์บุคลากร นักศึกษา ของมหาวิทยาลัย

๒. ขอบเขต

ขอบเขตครอบคลุมขั้นตอนการดำเนินงาน ตั้งแต่ จัดทำแผนฝึกอบรม ดำเนินการฝึกอบรม กำหนด กิจกรรมรายละเอียดต่าง ๆ ของการฝึกอบรม การฝึกอบรมตามแผนที่กำหนด ประเมินผลการอบรม รายงาน ผลการดำเนินการอบรม

๓. คำจำกัดความ

การฝึกอบรม หมายถึง กระบวนการเพิ่มประสิทธิภาพ โดยการเพิ่มความรู้ความเข้าใจ ทักษะและ ความชำนาญ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงาน

๔. ผู้รับผิดชอบ

๔.๑ ผู้บริหารงานบริการวิชาการและวิจัย

๔.๒ งานบริการการศึกษา ผู้รับผิดชอบการจัดฝึกอบรม

๕. ขั้นตอนระบบงาน

จัดทำแผนงบประมาณเบื้องต้น โดยใช้งบประมาณแผ่นดินและเงินรายได้ของมหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่ เฉลิมพระเกียรติ ดังนี้

๑. ดำเนินจัดทำแผนอบรม

๒. ผู้บริหารงานบริการวิชาการและวิจัยพิจารณาเบื้องต้น

๓. พิจารณาอนุมัติโครงการฝึกอบรม

๔. ดำเนินการจัดฝึกอบรม

๕. สรุปผลการจัดฝึกอบรมประจาปี

๖. เอกสารอ้างอิง (แบบฟอร์มต่าง ๆ ดังแนบ)

* แบบฟอร์มตอบรับเข้าร่วมโครงการฝึกอบรม

* แบบประเมินผลการฝึกอบรม

* แบบรายงานผลการดาเนินการฝึกอบรม

 

เอกสารกระบวนการปฏิบัติงาน

เรื่อง การจัดฝึกอบรม

๑. ปัจจัยนาเข้าและผู้ส่งมอบ (Input & Supplier) Input

- นโยบายการพัฒนา คณาจารย์บุคลากรและนักศึกษา ของผู้บริหาร

- ความต้องการฝึกอบรมของหน่วยงาน

- วิทยากร

- คณาจารย์บุคลากรและนักศึกษา มหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่ เฉลิมพระเกียรติ Supplier

- งบประมาณและทรัพยากรต่าง ๆ จากมหาวิทยาลัย

๒. กระบวนการปฏิบัติงาน : รายละเอียดตาม Flow Chart

๓. ผลผลิตและผู้ใช้บริการ (Output & Customer) Output

- จำนวนการฝึกอบรมที่ได้จัดขึ้น Customer

- คณาจารย์บุคลากรและนักศึกษา มหาวิทยาลัยแม่โจ้-แพร่ เฉลิมพระเกียรติ

๔. ความถี่และปริมาณงาน

- ดำเนินการฝึกอบรม ๒ ครั้ง/ปีการศึกษา

๕. การจัดทาแผนการดำเนินงาน ประกอบด้วย

๕.๑ แผนประจาปี(เอกสาร ๑)

๕.๒ แผนดำเนินการฝึกอบรมในแต่ละครั้ง ตาม Check list การจัดฝึกอบรม